3 น้ำยาทำความเย็น ห้องเย็น ทีนิยมในปัจจุบัน

3 น้ำยาทำความเย็น ห้องเย็น ทีนิยมในปัจจุบัน

02:36 Add Comment
        น้ำยาทำความเย็น ทีนิยมในปัจจุบัน และใช้บ่อยมาก จะเป็นน้ำยา R134a, R22 และ R404a น้ำยาทั้ง 3 ตัวนี้มีความแตกต่างกันชัดเจน ในเรื่องจุดประสงค์การใช้งาน มาดูละตัวกันเลย จะขออธิบายภาพรวมก่อนนะครับ เรื่องรายละเอียดลึกๆ จะเขียนให้อ่านต่อไป

1. น้ำยา R134a ระบายความร้อนในอุณหภูมิที่ไม่ต่ำมาก คอยร้อนตัวขนาดเล็กได้ จะไปอยู่ในแอร์ การระบายไม่ต้องใช้คอยล์ร้อนตัวใหญ่  ใช้คอยล์ ร้อนขนาดเล็ก

2. น้ำยา R22 ใช้งานได้หลากหลาย เช่น แอร์บ้าน ห้องเย็น แรงดันทางด้าน High ไม่เกิน 200-300 psi แรงดันทางด้าน low ที่อุณ -20  แรงดันน้ำยาจะมีแรงดัน 5-10 psi และขึ้นอยู่กับการปรับวาว valve
  ข้อกำจัด ไม่เกิน -25

3. น้ำยา R404a จะต้องใช้คอยล์ร้อนขนาดใหญ่กว่า น้ำยาของ 2 ตัวแรก และเดินอุณหภูมิ ต่ำๆ ได้เช่น -30 ถึง -40 องศา ห้องบาสฟรีซส์



- สิ่งที่ต้องรู้ก่อนเลือกน้ายาทำความเย็น

คอยล์ร้อน คืออะไร และทำงานยังไง

01:02 Add Comment
       คอยล์ร้อน เป็นอุปกรณ์ห้องเย็น ที่เป็นส่วนประกอบสำคัญ ที่ให้ห้องเย็นทำงานได้อย่างสมบูรณ์

การทำงานของคอยล์ร้อน







ปัญหาคอยล์เย็น


ปัญหาของคอยล์ร้อนที่เจอบ่อย

FB: facebook.com Youtube : facebook.com

คอยล์เย็น คืออะไร และทำงานยังไง

00:55 Add Comment
       คอยล์เย็น เป็นอุปกรณ์ห้องเย็น ที่เป็นส่วนประกอบสำคัญ ที่ให้ห้องเย็นทำงานได้อย่างสมบูรณ์

การทำงานของห้องเย็น







ปัญหาคอยล์เย็น


ปัญหาของคอยล์เย็นที่เจอบ่อย จะเป็นน้ำแข็งคอยล์เย็นตัน

โทร : 099-129-0789 หรือ 084-0137350
FB: facebook.com Youtube : facebook.com

5 ปัญหาหลักจะเกิดขึ้น ถ้าไม่ดูแลห้องเย็น

00:11 Add Comment
      ท่านใดที่มีห้องเย็นอยู่แล้ว หรือต้องการจะสร้างห้องเย็นใหม่ อยากให้ศึกษาข้อมูลการดูแลห้องเย็น และปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นเพื่อป้องกันไม่ปัญหา เพราะปัญหามันจะมาพร้อมกับค่าใช้เวลาและค่าใช้จ่าย




ถ้าเราไม่ดูแลห้องเย็น 5 ปัญหาที่จะเกิดขึ้นคือ


1. ตัวเครื่องทำความเย็นทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ
    แผงคอยร้อนตัน ระบายได้ไม่ดี การระบายความร้อนของอุปกรณ์ห้องเย็นก็จะมีผลกระทบตามมา ก็ต้องใช้น้ำยาทำความเย็นเพิ่มขึ้น จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเช่นกัน

2. คอยเย็นตันของน้ำแข็ง
     จะทำให้แผงรังผึ้งไม่สามารถดูดลมเข้าไปได้ ทำให้คอยล์เย็นทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ

3. ระยะเวลาในการทำงานเพิ่มขี้น
     ค่าไฟที่ใช้จะเพิ่มขึ้นด้วย เนื่องจากอุปกรณ์ต่างๆ ทำงานมากขึ้น เช่น ฮีทเตอร์ คอมเพรสเซอร์ คอยล์เย็น

4. อุปกรณ์ห้องเย็นเสียหาย เช่นใบลมเสียหาย ถ้าน

5. คอมเพรสเซอร์พัง (เรื่องใหญ่มาก และแพงมากด้วย )
    น้ำมันคอมเพรสเซอร์ รั่ว ซึม ถ้าไม่คอยดูแลสังเกตุน้ำมัน compressor เมื่อเสียหายแล้ว จะต้องรือใหม่เพื่อเปลี่ยน แหวน ก้าน สลักและ Over Horn ใหม่ ทั้งหมด


ซ่อมคอมเพรสเซอร์



เพราะฉะนั้นเรามาลดต้นทุนกันเถอะ ด้วยการดูแลห้องเย็นให้ดี เราก็จะมีเงินเหลือมากขึ้นแน่นอน นะๆ


การดูแลรักษาห้องเย็น

1. ดูคอนย์ร้อนไม่ให้ตัน ระบายความร้อนที่อยูด้านหลังสุด โดยให้ฉีดน้ำหรือป่าว

2. ดูคอยล์เย็นว่าตันไหม สาเหตุเกิดจากน้ำแข็งละลายไม่หมด วิธีการแก้ไข ให้กดเทอร์โมแบบ Manaul เพื่อละลายน้ำแข็ง

3. ดูว่ามีน้ำยาหรือเปล่า

4. น้ำมันในตัวคอมเพรสเซอร์เป็นยังไงบ้าง ให้ช่างเช็คให้

5. เช็คกระแสไฟให้เป็นปกติตลอดเวลา


โทร : 099-129-0789 หรือ 084-13-7350
Line : @topcooling (พิมพ์ @ ด้านหน้าด้วย)
Web : topcooling.net
ทักแชตมาคุยได้นะครับ :Inbox
FB: facebook.com Youtube : facebook.com