1. ทราบอุณหภูมิ ณ ปัจจุบันของห้องเย็น และดูย้อนหลังได้
2. ทราบสถานะการทำงานของเครื่องคอมเพรสเซอร์ ว่าทำงานหรือไม่ทำงาน ณ ขณะที่ดู
3. ทราบสถานะการทำงานของคอยล์เย็น ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่อยู่ในห้องเย็นและทำงานร่วมกับชุดคอนเด็นซิ่ง (Compressor)
4. ทราบว่า Overload คอมเพรสเซอร์ตัดหรือไม่ ก็คือรู้ว่ากระแสไฟฟ้าที่ให้คอมเพรสเซอร์นั้นมากกว่าปกติหรือไม่
5. ทราบว่า Overload (กระแสไฟฟ้าเกิน) ที่คอยล์เย็นหรือไม่
6. ทราบว่า Overload (กระแสไฟฟ้าเกิน) ที่คอยล์ร้อนหรือไม่ หากมีกระแสไฟฟ้าเกิน ก็จะแจ้งเตือนไปผู้ใช้งานห้องเย็นทันในหลายช่องทาง คือ ทางแอปพลิเคชั่นไลน์ ในหน้า DashBoard Web Application และบันทึกจำนวนการตัดของ Overload ลงฐานข้อมูลเพื่อนำไปวิเคราะห์ต่อไป
7. ทราบสถานะไฟฟ้า (Phase Protection) ว่าปกติหรือมีไฟฟ้าเกิน ไฟตก ไฟไม่บาลานซ์เฟส หรือไม่
![]() |
เราจะทราบได้ว่าแต่ละอุปกรณ์หรือสถานะทำงานกี่นาที และ ไม่ทำงานกี่นาที นั้นหมายถึงเรารู้พฤติกรรมการทำงานของเครื่องทำความเย็นทั้งระบบ ว่าระบบทำงานได้ปกติ และ ได้ประสิทธิภาพได้เหมือนกับตอนที่ติดตั้งใหม่ๆ หรือไม่ (ปกติประสิทธิภาพเครื่องจะลดลงตามระยะเวลาที่ใช้งาน เช่น กินกระแสไฟมากขึ้น หรือทำอุณหภูมิได้ช้าลงในเวลาที่เท่าเดิม)
นอกจากเราจะรู้พฤติกรรมการทำงานของเครื่องทำความเย็นแล้ว เรายังสามารถนำเวลาที่เครื่องทำงานมาคำนวณเป็นค่าไฟฟ้าในเบื้องต้นได้ ทำให้เราวางแผนหรือบริหารห้องเย็นได้ เช่น หากค่าไฟเยอะผิดปกติ เราจะหาสาเหตุที่ผิดปกติได้อย่างรวดเร็ว หรือการตั้งค่าบางอย่างที่ใช้ไฟฟ้าโดยไม่จำเป็นออกไป เช่น ฮีตเตอร์ละลายน้ำ จริงๆ ถ้าละลายหมดแล้วแต่ฮีทเตอร์ยังทำงานอยู่ ก็อาจลดเวลาการ Defrost จะช่วยประหยัดค่าไฟได้
เพียงทำเท่านี้เราก็จะป้องกัน ลดความเสี่ยง สินค้าที่อาจจะเสียหายในห้องเย็นได้ ลดการซ่อมบำรุงเครื่องทำความเย็นได้อีกด้วย โดยการดูผ่าน Smartphone ได้เลย
โทร : 0990129-0789 หรือ 084-013-7350
Line ID : phurits
Web : chokeutsaha.co.th
FB: facebook.com
EmoticonEmoticon